วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558

ถัดจากแว่น และนาฬิกาก็คือ…วิกอัจฉริยะ


ถัดจากแว่น และนาฬิกาก็คือ…วิกอัจฉริยะ





Sony ได้ทำการขอจดสิทธิบัตร “SmartWig” เพื่อผลักดันให้บริษัทเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีสวมใส่กับร่างกาย (wearable technology)

ตามสิทธิบัตรที่มีการขอจดนั้นบ่งบอกว่า SmartWig ช่วยในการนำทางบนท้องถนน, เปลี่ยนหน้าสไลด์บนพรีเซ็นเทชั่นและเก็บข้อมูลอย่าง ความดันเลือด ทางโซนี่เองก็ยังบอกอีกว่ามันยังสามารถประมวลผลและสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายกับอุปกรณ์ตัวอื่นๆ

กูเกิล และซัมซุงก็เป็นอีกสองบริษัทที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสวมใส่กับร่างกายซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเติบโต นักวิเคราะห์เชื่อว่าสินค้าในกลุ่มนี้ ตลาดจะมีการขายตัวอย่างมากภายในช่วงสองปีข้างหน้า ทางโซนี่เองก็พยายามรุกหนักในการทวงคืนสิ่งที่หายไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าและตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในตลาดนี้

Sony บอกว่า SmartWig สามารถสวมใส่ศีรษะ ครอบลงไปบนผมจริงได้ โดยวัสดุหลักที่ใช้ผลิตวิกก็คือหางม้า, ผมของคนจริงๆ, วูล, ขนนก, ขนของจามรี, ขนควายหรือวัสดุสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังมีอินเตอร์เฟซการสื่อสารและเซนเซอร์ซ่อนอยู่ด้านในเพื่อไม่ให้คนเห็นว่ากำลังใช้งานอยู่ โซนี่บอกว่าเจ้าวิกอัจฉริยะนี้มีโอกาสที่จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเพราะมันเป็นทั้งของไฮเทคและสินค้าแฟชั่นรวมกัน

ส่วนการใช้งาน ต้องขอบอกว่ามีข้อดีอยู่หลายอย่างเมื่อเทียบกับอุปกรณ์สวมใส่ที่วางขายในตลาดอยู่แล้ว เช่น เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้, ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนและ Google Glass รวมถึงมีมือว่าง เหลือเอาไว้ทำกิจกรรมอื่นๆ คุณสมบัติของ SmartWig ที่บอกไว้ก็มี ช่วยนำทางคนพิการทางสายตา ด้วยการใช้กล้องและเซนเซอร์นการจับตำแหน่งและพิกัดของผู้สวมใส่ นอกจากนี้ยังสั่งงานได้จากระยะไกลผ่านเครือข่าย ส่งรูปภาพหรือคำสั่งที่ใช้การสั่นเพื่อนำทางผู้สวมใส่แบบแมนนวลได้

ส่วนการพัฒนาขั้นต่อไปก็คือพัฒนาให้ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ในการตรวจจับวัตถุรอบตัวผู้ใช้ รวมถึงต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมเกม, เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเสมือนจริงและอุตสาหกรรมด้านดูแลสุขภาพ เมื่อเพิ่มเซนเซอร์หลายอย่างเข้าไปก็จะช่วยเก็บข้อมูลอย่าง อุณหภูมิ, ชีพจรและความดันเลือดแล้วส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

ห้องผ่าตัดอัจฉริยะ HYBRID OR ด้วยเทคโนโลยี Flexmove


ห้องผ่าตัดไฮบริดเหมาะกับการรักษาแบบใด ?
ห้องผ่าตัดไฮบริด เหมาะสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีสายสวนทางหลอดเลือด และมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะต้องผ่าตัดแก้ไขหากเกิดข้อผิดพลาด เช่น
•  การใช้สายสวนรักษาเส้นเลือดใหญ่โป่งพอง Endovascular aneurysmoraphy EVAR ซึ่งลดผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้มาก
•  การเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยการใช้สายสวน Tran Arterial Valvular Implantation (TAVI) โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหัวใจ สาหรับผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัดใหญ่
•  การรักษาที่ต้องใช้การรักษาร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา เช่น การรักษาการเต้นของหัวใจผิดปกติ Electrophysiology เป็นต้น
ห้องผ่าตัดไฮบริดให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าการผ่าตัดทั่วไปอย่างไร ?
1. กระบวนการในการวินิจฉัยและรักษาเกิดขึ้นได้ในครั้งเดียวกัน (one visit)
2. หัตถการปลอดภัย (safer procedures)
3. ระยะเวลาทำหัตถการสั้นลง (shorter procedures)
4. ได้ภาพทางรังสีระหว่างหัตถการ (faster imaging)
5. ผลลัพธ์การรักษาดี (better outcomes)
6. พักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลเวลาสั้นลง (shorter hospital stays)
7. เหมาะกับผู้ป่วยที่มีภาวะโรคซับซ้อนและมีภาวะเสี่ยงสูง
Hybrid Operating Room ถูกออกแบบรองรับการผ่าตัดอย่างไร ?
1. ห้องจะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เพื่อการทำงานร่วมกันของสหสาขาวิชาชีพอย่างเป็นระบบ เช่น ศัลยแพทย์ รังสีแพทย์ อายุรแพทย์หัวใจ วิสัญญีแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่รังสีเทคนิค
2. Hybrid Operating Room เป็นห้องปลอดเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากการผ่าตัด
3. อุปกรณ์ในห้องผ่าตัดออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกไม่ขัดขวางการผ่าตัดโดยทั่วไป
4. เทคโนโลยี Flexmove ที่สามารถถ่ายภาพเอกซ์เรย์ได้ 360 องศา ช่วยให้แพทย์ทาการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยซับซ้อนได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เตียงผ่าตัดสามารถปรับองศาได้ ช่วยให้การผ่าตัดรักษามีความหลากหลายมากขึ้น
เทคโนโลยีครบวงจรอย่างไร ?
อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในห้องผ่าตัดไฮบริดจะต้องประกอบด้วย
1. อุปกรณ์สำหรับผ่าตัดโดยทั่วไป
  • เตียงผ่าตัด
  • เครื่องมือผ่าตัด
  • เครื่องดมยาสลบ
  • ไฟส่องผ่าตัด
2. อุปกรณ์สาหรับการทำหัตถการใช้สายสวนหลอดเลือดผ่านผิวหนัง
  • อุปกรณ์เอกซเรย์ประสิทธิภาพสูงสามารถสร้างภาพที่ละเอียดได้ทันที
  • อุปกรณ์สาหรับวัดความดันเลือดจากสายสวนทันที
3. การทำงานร่วมกับระบบเอกซเรย์
สามารถรู้ขนาดและตำแหน่งของอวัยวะ เพื่อสร้างภาพสามมิติทำให้วางแผนการรักษาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งสามารถส่งสัญญาณภาพพร้อมเสียง สื่อสารโต้ตอบกันได้จากห้องผ่าตัดไปยังห้องประชุม เพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ในอนาคต และการทำงานร่วมกันระหว่างเตียงผ่าตัด
ห้องผ่าตัดไฮบริดเหมาะสำหรับผู้ป่วยประเภทใด
ผู้ป่วยกลุ่มโรคซับซ้อนที่ใช้การรักษาผ่านทางสายสวนร่วมระหว่างการผ่าตัดด้วยหรือมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะต้องผ่าตัดแก้ไขหากเกิดข้อผิดพลาด ได้แก่
1. กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardio Vascular Thoracic Surgery)
1.1 coronary artery bypass surgery, CABG ร่วมกับ coronary angiogram
1.2 ผู้ป่วยที่มีความจาเป็นต้องใส่ขดลวดเพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจด้วย stent grafts ในผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแดงโป่งฟอง (Thoracic Aorta Aneurysm)
1.3 การเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านทางสายสวนหลอดเลือด (Tran Arterial Valvular Implantation :TAVI)
2. กลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือด (Vascular Surgery)
2.1 การใช้สายสวนรักษาเส้นเลือดใหญ่โป่งพอง Endovascular aneurysmoraphy (EVAR) ซึ่งลดผล แทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้มาก
3. กลุ่มผู้ป่วยระบบประสาทและสมอง (Neurosurgery)
3.1 ผิดปกติของหลอดเลือดแดงและดา เป็นการต่อกันของเส้นเลือดดาและแดงไม่สมบูรณ์ ทาให้การเดินเลือดไม่ปกติ เกิดปมเหมือนลูกโป่งที่โป่งขึ้นเรื่อยๆ และแตกในที่สุดเป็นความผิดปกติของหลอดเลือดมาแต่กาเนิด ทาให้เกิดอาการชัก (Arteriovenous malformation)
3.2 เส้นเลือดโป่งพองในสมอง หรือ Cerebral aneurysm เราไม่ทราบสาเหตุการเกิดแน่ชัดแต่พบว่าชั้นของเส้นเลือดในสมองที่โป่งพองมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า และในชั้นกลางมีกล้ามเนื้อน้อยกว่า ส่วนมากเส้นเลือดที่โป่งพองจะอยู่ตรงที่เส้นเลือดมีการโค้ง อยู่ตรงมุมที่เส้นเลือดมีการแยกแขนงการเสื่อมของเส้นเลือด ร่วมกับความดันโลหิตสูงอาจเป็นปัจจัยที่เสริมในการเกิดร่วมกับเส้นเลือดที่ผิดปกติแต่กาเนิด นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นอีก เช่น จากอุบัติเหตุการติดเชื้อ

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

รถดำน้ำคันแรกของโลก!! 'sQuba' ยานยนต์ต้นแบบแห่งอนาคต



มนุษย์สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในโลกที่คิดจะเอาชนะธรรมชาติ อาจถึงคราวต้องยอมเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่กับธรรมชาติก็คราวนี้ เห็นได้จากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่งมันไม่ได้เกิดเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น และสิ่งหนึ่งที่เห็นกันก็คือ ไม่มีมนุษย์หน้าไหนเอาชนะธรรมชาติได้จริงๆ !!'Rinspeed sQuba' คือ ยนตกรรมที่เกิดจากความพยายามของคนที่จะอยู่กับธรรมชาติให้ได้ในทุกที่ไม่ว่าจะบนบกหรือในน้ำ มันทำให้นึกถึงยานพานะชนิดนึงที่ร่วมแสดงในภาพยนตร์ เรื่อง 'The Spy Who Loved Me' เมื่อราว 35 ปีก่อน รถสปอร์ตคันหรูที่สามารถดำน้ำได้ มันเป็นสิ่งเหลือเชื่ออย่างมาก'sQuba' คือรถยนต์ดำน้ำที่เหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์ มันคือรถต้นแบบแห่งอนาคต สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ 'Lotus Elise' สิ่งที่ท้าทายคือ การที่ต้องออกแบบให้มันสามารถเคลื่อนไหวด้วยลักษณะเดียวกับปลาในน้ำ

ผลงานการดัดแปลงเป็นของ Esoro วิศวกรชาวสวิส เริ่มต้นด้วยการโยนเครื่องยนต์แบบสันดาปทิ้งไป และแทนที่ใหม่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวด้วยกัน ในการขับบนบกจะได้กำลังจากมอเตอร์ตัวเดียว ส่วนแรงขับดันในน้ำจะเกิดจากมอเตอร์ 2 ตัวด้านหลัง การออกแบบเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบา ความทนทานสูง อย่างนาโนคาร์บอน เป็นหลักถังออกซิเจนชนิดพิเศษ ถูกติดตั้งเข้าไปเพื่อใช้สำหรับการหายใจของผู้ขับขี่ มีคนตั้งข้อสงสัยไม่น้อยว่าทำไมรถดำน้ำถึงได้ไม่มีหลังคา ซึ่งผู้ออกแบบให้เหตุผลด้านความปลอดภัย ยามเกิดเหตุไม่คาดฝันผู้โดยสารสามารถผละออกจากตัวรถได้ทันที


'sQuba' ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ทำให้การปล่อยมลภาวะมายังโลกเป็นศูนย์ รวมถึงระบบไฟต่างๆ ก็เลือกใช้เทคโนโลยีระบบ LED ทั้งหมด เพื่อการใช้พลังงานให้คุ้มค่าที่สุดชิ้นส่วนทุกชิ้นของ 'sQuba' ทนทานต่อการกัดกร่อนของเกลือ หน้าปัดสามารถใช้งานได้ทุกส่วนยามอยู่ใต้ผิวน้ำ ยางตามสเปกเลือกใช้ของ Pirelli ล้อแม็กซ์ขนาด 17-18 นิ้วของ AEZ 

ความเร็วสูงสุดบนบกของ 'sQuba' คันนี้ วิ่งได้ราว 120 กม./ชม. หากแล่นเหนือผิวน้ำจะทำความเร็วได้ประมาณ 7 กม./ชม. แต่เมื่อมันดำน้ำจะทำความเร็วได้เพียง 4 กม./ชม. เท่านั้น

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ 'sQuba' เปิดโชว์ตัวในงาน 'Geneva Motor Show' เมื่อ 4 ปีก่อน และทุกวันนี้มันยังถูกฝังไว้ในหมวดรถต้นแบบ ที่ยังไม่มีการผลิตออกจำหน่ายอย่างจริงจัง แต่ก็เชื่อว่าโลกในอนาคต คงมีสิทธิ์ได้เรียกใช้บริการของมันแน่ๆ...


Thai Radio++


10898010_734061003379590_8584681447613272961_n


สำหรับคนที่ชอบฟังวิทยุแบบผม เมื่อครึ่งปีหลังของปี 2014 ต้องบอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาแห่งสรวงสวรรค์อย่างยิ่ง เพราะคลื่นวิทยุชุมชนตัวดี ที่แถวบ้านผมมักจะมีสัญญานแรงกว่าคลื่นหลักเสมอ ช่วงนั้นโดนควบคุมอยู่ ทำให้ฟังเพลง ฟังบอล ฟังข่าวลื่นสบายหูอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่พอมาในวันนี้ พลังแห่งคลื่นวิทยุชุมชนได้กลับมาอีกครั้ง ที่แม้จะไม่มาแรงเท่าเดิม แต่ก็แรงพอที่จะทำให้การแข่งขันฟุตบอลที่สนามโอลแทรฟฟอร์ดเปิดเพลงลูกทุ่ง สลับกับขายยาบำรุงได้

ในเมื่อเราไม่สามารถไปจูนสัญญานคลื่นวิทยุชุมชนให้เบาลงได้ งั้นเรามาหาวิธีที่จะทำให้คลื่นวิทยุนั้นมากวนการฟังของเราดีกว่าครับ ด้วยแอพตัวนี้เลย “Thai Radio++” ซึ่งเป็นแอพ ฟังวิทยุออนไลน์สัญชาติไทยของเwไรานี่เอง

สมาร์ทโฟน Lamborghini 88 Tauri


Smartphone-di-lusso
แน่นอนว่าคงไม่มีใครไม่อยากรู้ถึงสเปคของเจ้าสมาร์ทโฟน Lamborghini  88 Tauri ตัวนี้ว่าจะเทพขนาดไหน โดยตัวสมาร์ทโฟนมี 2 รูปแบบให้เลือกระหว่างตัวเครื่องที่เป็นวัสดุพรีเมี่ยมผลิตจากโลหะกับหนังแท้  มีขนาดหน้าจอประมาณ 5 นิ้ว HD CPU Quad Core  Snapdragon 801 สี่แกน 2.3 GHz มาพร้อมกับ Ram ขนาด 3 GB และหน่วยความจำประมาณ 64 GB ใช้งานได้นานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 3200 mAh
ส่วนกล้องด้านหลังก็มีความละเอียดมาให้ถึง 20 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แถมผลิตจำนวนจำกัดซะด้วยเพียง 1,947 เครื่องเท่านั้น (ตามปีเกิดของเจ้าของ  Lamborghini)

Hoverboard (โฮเวอร์บอร์)

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยคลิป Hoverboard (โฮเวอร์บอร์) มาครั้งนึงแล้ว ซึ่งทำมาเหมือนในหนังแบบเป๊ะๆ (เล่นพาตะลึงกันเลยทีเดียว) แต่แล้วก็ได้มีการพิสูจน์ออกมาว่าเป็นคลิปปลอมที่ทำ “เฟค” ขึ้นเพื่อโปรโมทการระดมทุนมาพัฒนาโปรเจคนี้
แต่ล่าสุดก็มีคนเนรมิตให้มันมีตัวตนจริงๆ ขึ้นมาได้แล้วและถือเป็น Hoverboard ตัวแรกของโลกด้วย โดยทีมงานจาก Hendo
hendo21beta
Hendo Hoverboard ตัวนี้สามารถลอยเหนือพื้นดินได้จริงๆ ประมาณ 3/4 นิ้วโดยใช้ผิวหน้าที่เป็นโลหะชนิดพิเศษที่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กที่เรียกว่า  Magnetic Levitation ขึ้นมา
ด้วยเครื่องกำเนิดแม่เหล็กสีตัวตามมุมของบอร์ด ที่มีคุณสมบัติในการช่วยผลักดันให้บอร์ดนี้ลอยขึ้นเหนือพื้นดินได้อย่างสบายๆ และยังสามารถรองรับน้ำหนักของมนุษย์ได้ถึง 200 ปอนด์ หรือประมาณ 90 กิโลกรัม
ซึ่งแน่นอนว่าเดี๋ยวจะหาว่าราคาคุยรึป่าว โดยทาง Hendo ก็ได้นำเซียนสเก็ตบอร์ดระดับตำนานอย่าง Tony Hawk มาลองของให้ได้ชมกัน
หลังจากที่เจ้าตัวฝึกซ้อมอยู่สักพักก็สามารถบังคับบอร์ดตัวนี้ได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าโปรเจคนี้จะสามารถระดมทุนรอบแรกได้สำเร็จบน Kickstarter ไปแล้ว แต่ทาง Hendo ก็ได้ยังเจอข้อจำกัดอย่างเช่น ตัวบอร์ดที่สามารถลอยได้เฉพาะพื้น อะลูมิเนียม โลหะ หรือ ทองแดง เท่านั้น และยังควบคุมได้ยากมาก ซึ่งต้องใช้การฝึกฝนพอควร

วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

ศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมรูปภาพประกอบ

ศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมรูปภาพประกอบ

1. Doll ตุ๊กตา


2. Cat แมว



3. Bee ผึ้ง



4. Dog สุนัข


5. Fish ปลา





6. Mango มะม่วง


7. Banana กล้วย



8. Red  สีแดง



9. Yellow สีเหลือง


10. Pink สีชมพู


วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

ผลไม้ที่ชื่นชอบ



       1. กีวี เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีมากกว่าส้มถึงสองเท่า เพียงรับประทานแค่หนึ่งผล จะให้วิตามินซีเพียงพอตามที่ร่างกายคนเราต้องการในแต่ละวันเลยนะ
       
       2. มีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีค่าชีวะปริมาณออกฤทธิ์ (Bioavailable antioxidants) เช่น วิตามินซี วิตามินอี โพลีไฟนอล แคโรทีนอยด์ในระดับสูง ซึ่งจะช่วยลดอนุมูลอิสระที่สร้างความเสียหายต่อเซลล์และนำไปสู่​​ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคมะเร็ง โรคข้อเสื่อม โรคหอบหืด โรคหัวใจหลอดเลือด โรคเบาหวานและต้อกระจก
       
       3. ช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีเอนไซม์แอกทินิดินซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีนได้ดีขึ้น
       
       4. มีไฟเบอร์ตามธรรมชาติ ช่วยสร้างสุขภาพที่ดีในระบบการย่อยอาหาร รวมไปถึงการขับถ่าย
       
       5. เป็นแหล่งของโพแทสเซียมธรรมชาติที่มีความจำเป็นต่อเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย กีวี 2 ผลให้ปริมาณโพแทสเซียมร้อยละ 10 ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับกล้วย แต่มีปริมาณแคลอรีที่น้อยกว่า
       
       6. อุดมไปด้วยโฟเลต ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะช่วยพัฒนาสารพันธุกรรมของทารกในครรภ์ ป้องกันความบกพร่องทางสมองของเด็กทารก รวมถึงเสริมสร้างสมองให้แข็งแรง พร้อมช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองที่ดีอีกด้วย
       
       7. แหล่งรวมวิตามินอีไขมันต่ำตามธรรมชาติ ซึ่งทราบกันดีว่าช่วยในการทำงานของหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยในการไหลเวียนโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และลดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจที่ไปเลี้ยงสมอง
       
       8. มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ซึ่งไม่ส่งผลให้เกิดสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแบบฉับพลัน เหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวานเพราะจะช่วยพัฒนาสารพันธุกรรมของทารกในครรภ์
       
       9. มีแคลอรีต่ำ แต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นตัวเลือกที่ดียิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แถมยังมีรสชาติอร่อย รับประทานง่ายอีกด้วย
       
       10. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ต่อต้านอาการภูมิแพ้ต่างๆ รวมทั้งหอบหืด ช่วยลดอาการอักเสบจากการติดเชื้อ ช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลอดเลือด เหงือก กระดูกและฟันแข็งแรง
       

อาหารที่ชื่นชอบ


สเต็กเนื้อพริกไทยดำ


ส่วนผสม
เนื้อวัวส่วนสะโพก (top round) ชิ้นหนา 1 นิ้ว (ชิ้นละ 200 กรัม)2 ชิ้น
น้ำมันมะกอก2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำบดใหม่ๆ1 ช้อนชา
เกลือป่น1/2 ช้อนชา
เนยสดชนิดจืด3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงสับละเอียด1/3 ถ้วย
วิสกี้3 ถ้วย
ครีมข้น1/3ถ้วย
กระทะเหล็กแบบมีร่อง
เฟรนช์ฟรายทอดและผักปวยเล้งผัด
ออริกาโนสดสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1. ล้างเนื้อ ซับน้ำให้แห้ง ทุบด้ยค้อนทุบเนื้อบนหน้าตัดของเนื้อพอนุ่ม หมักกับน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ และพริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา ในตู้เย็นช่องธรรมดา 30 นาที
2. ตั้งกระทะน้ำมันมะกอกที่เหลือบนไฟกลางจนร้อน (ทดสอบโดยหยดน้ำลงไป ถ้าน้ำเต้งขึ้นมานทีถือว่าใช้ได้) โรยเกลือ 1/4 ช้อนชา บนเนื้อที่หมักให้ทั่ว แล้วใส่แน้อทั้งชิ้นลงทอดด้านละประมาณ 1-2 นาที (เนื้อที่ได้จะมีลักษณะสุกด้านนอกแต่ข้างในยังแดงหรือมีรอยไหม้เล็กน้อย) ปิดไฟ ตักใส่จาน พักไว้
3. ทำซอสโดยตักน้ำมันที่เหลือในกระทะทอดเนื้อ แล้วใส่เนย 2 ช้อนโต๊ะ เปิดไฟกลาง พอเนยละลายใส่หอมแดงผัดจนสุกนุ่ม ใส่วิสกี้ คนพอทั่ว พอเดือดใส่บราวน์สต๊อก ครีมข้น และเนยที่เหลือ เคี่ยวพอเนยละลายและมีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยที่เหลือ คนให้ทั่ว ปิดไฟ
4. วิธีจัดเสิร์ฟ วางเฟรนช์ฟรายทอดและผักปวยเล้งผัดที่หัวจสาน วางชิ้นสเต็กเนื้อ ตักซอสที่ทำใส่ ตกแต่งด้วยออริกาโนสด เสิร์ฟร้อนๆ