วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ส.ค.ส วันปีใหม่



วันปีใหม่


  May the New Year 2015 be as fresh as morning dew, 

as vibrant as the colors on a butterfly
and as blissful as the angels from heaven.
ขอให้ปี 2015 นี้ สดชื่นเหมือนกับน้ำค้างตอนเช้า 

มีชีวิตชีวาเหมือนสีสันบนปีกผีเสื้อ 
และสงบสุขเหมือนนางฟ้าจากสวรรค์

 

วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

นักฟุตบอลในดวงใจ


กวินทร์  กรรมสัจจานันท์

ข้อมูลส่วนบุคคล

         
วันเกิด26 มกราคม พ.ศ. 2533 (24 ปี)
สถานที่เกิดกรุงเทพมหานคร ไทย
ส่วนสูง1.83 ม. (6 ฟุต 0 นิ้ว)
ตำแหน่งผู้รักษาประตู
ชื่อเต็มกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
สโมสรปัจจุบันเมืองทอง ยูไนเต็ด
หมายเลข26
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์[1] (ชื่อเล่น: ตอง; เกิด 26 มกราคม พ.ศ. 2533 กรุงเทพมหานคร) เป็นผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ปัจจุบันลงเล่นตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
กวินทร์ ได้มาร่วมทีมกับสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปีพ.ศ. 2551 ซึ่งปีนั้น เมืองทองฯยูไนเต็ดได้เลื่อนชั้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกล่าสุด สามารถแสดงทักษะฝีเท้านักเตะจนได้เป็นแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของสโมสร กวินทร์สามารถเล่นตำแหน่งผู้รักษาประตูได้ดีกับสโมสร ทำให้ได้เล่นเป็นผู้รักษาประตูอย่างเต็มตัว แฟนฟุตบอลเมืองทองฯยูไนเต็ด ได้ตั้งฉายาให้ว่า "เทพกวินทร์ บินได้"
พ.ศ. 2556 ได้เปลี่ยนชื่อจาก "กวิน" มาเป็น "กวินทร์" จากคำแนะนำของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ภายหลังจากประสบเคราะห์ได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง[1]
ในปี พ.ศ. 2557 ได้รับแต่งตั้งจาก เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ให้เป็นกัปตันทีมชุดเอเชียนเกมส์ 2014 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้[2] รวมถึงเป็นผู้ถือธงชาติไทยนำหน้าคณะนักกีฬาไทยในพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ด้วย[3]

ผลการแข่งขันฟุตบอลที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลที่ผ่านมา



ฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขับอนฟุตบอลระหว่างประเทศ และอยู่ภายใต้การบริหารของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยทีมมีประวัติของความสำเร็จในการแข่งขันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือชนะเลิศอาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 3 สมัย และชนะเลิศซีเกมส์ 9 สมัย โดยทีมชาติไทยยังสามารถคว้าอันดับ 3 ในเอเชียนคัพ 1972 และเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อน 2 ครั้ง และในเอเชียนเกมส์ 4 ครั้ง โดยอันดับโลกฟีฟ่าที่ทีมชาติไทยทำอันดับได้ดีที่สุด คือ อันดับที่ 42 ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2541 ปัจจุบันทีมชาติไทยอยู่อันดับที่ 142 ของโลก จากการจัดอันดับโดยฟีฟ่า(ธันวาคม พ.ศ. 2557)

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สถานที่ที่น่าท่องเที่ยวในฤดูหนาว


ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ได้รับสมญาว่า "สวิตเซอร์แลนด์แดนสามหมอก" โดย"ปางอุ๋ง" ชื่อเต็ม ๆ ว่า "โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)" โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,200 เมตร ณ บ้านรวมไทย ภายใต้การดูแลของสำนักงานบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 (แม่สะเรียง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดิมทีเคยเป็นสถานที่ปลูกฝิ่นของชาวเขา ต่อมาได้รับการพัฒนาตามทฤษฎีสวนแบบปางอุ๋ง จนกลายมาเป็น "สวรรค์บนดิน" อันอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชสมุนไพร พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวหลากหลายสีสัน ตลอดจนดงสนสองใบที่เติบโตเรียงรายตลอดแนวอ่างเก็บน้ำปางตอง ที่ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเก็บภาพประทับใจ ยิ่งในยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านทิวสนลงมาเป็นลำ ๆ จะช่วยเพิ่มความงดงามและความโรแมนติกมากยิ่งขึ้น สภาพอากาศมีความเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งโดยเฉพาะในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามาพักแรมกางเต็นท์เก็บบรรยากาศความโรแมนติกและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงาม 

ทุ่งทานตะวัน สระบุรี





เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ของทุกปี ฤดูกาลท่องเที่ยว ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี  ริมฝั่งถนนจะสะพรั่งไปด้วยสีเหลืองของดอกทานตะวัน เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ผ่านมาบริเวณนี้เป็น อย่างมากจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด และในทุกปีจังหวัดสระบุรี จะจัด เทศกาลทุ่งทาน ตะวันบาน ในทุกปี สลับหมุนเวียนไปในแต่ละอำเภอ / พื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชื่นชม และถ่ายภาพ เป็นที่ระลึก ตลอดจนการ ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปลูกดอกทานตะวัน การนำเอาผลผลิตจาก เมล็ดทานตะวันไป ใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภครวมทั้งการเลือกซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เมล็ดทานตะวันคั่วสด ๆ จากไร่ หรือหาซื้อน้ำผึ้งทานตะวันเป็นของฝากจังหวัดสระบุรีมีพื้นที่ปลูกทานตะวันนับหลายหมื่นไร่ บริเวณเขตติดต่อ ระหว่างจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคม-วังม่วง มีการทำไร่ทานตะวันกันมาก รวมทั้งในอีก หลายอำเภอของสระบุรี เช่น อำเภอพระพุทธบาทแก่งคอย หนองโดน หนองแคและมวกเหล็ก แต่ที่อำเภอ วังม่วงจะมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด
นักท่องเที่ยวสามารถ วางแผนการเดินทางมาท่องเที่ยว ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี ได้ตลอดเวลาเลือกชมได้ ในหลายๆ พื้นที่ โดยแต่ละแห่ง แต่ละ พื้นที่จะมีความสวยงามและกิจกรรมการจัดงานแตกต่างออกไป นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการขับรถชมทุ่งทานตะวันท่ามกลางบรรยากาศเนินเขา ทุ่งหญ้า ฟาร์มม้า โคนม และ ไร่องุ่น สามารถเลือกชมและท่องเที่ยวทุ่งทานตะวันได้ในพื้นท ี่อำเภอวังม่วง และมวกเหล็ก บรรยากาศการ ท่องเที่ยว ของสองอำเภอนี้เหมาะสำหรับท่องเที่ยวแบบครอบครัว ขับรถชมทิวทัศน์ ชมธรรมชาติ ท่ามกลาง สาย ลมหนาว ที่พัดผ่านที่ราบเชิงเขา ชมทุ่งทานตะวันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พักผ่อนรีสอร์ตกับครอบครัวอย่างมีความสุขทานตะวันจะบานสะพรั่งสวยงามในสองอำเภอนี้มากที่สุด ในช่วง ระหว่าง เดือนธันวาคมและมกราคม ในช่วง เวลาอื่นๆ จะมีบานสะพรั่งเป็นพื้นที่ๆ

คนหูหนวกก็ฟังเพลงได้

คนหูหนวกก็ฟังเพลงได้


นี่คือหูฟังบลูทูธรูปแบบใหม่ที่ฝังลงในร่างกายเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือวิทยุ เพื่อให้คนที่หูหนวกสามารถกลับมาได้ยินอีกครั้งนึง
หลายๆ คนใช้หูฟังไร้สายเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อฟังเพลงหรือไม่ก็คุยโทรศัพท์อยู่แล้วล่ะ แต่ล่าสุดมีคนคิดหูฟังแบบใหม่ใช้ฟังลงไปในร่างกายเพื่อช่วยให้คนหูหนวกสามารถได้ยินเสียงอีกครั้ง
เจ้าของไอเดียนี้ก็คือ MED-EL เขาพัฒนาหูฟังที่มีชื่อว่า Vibrant Soundbridge วิธีใช้งานคือฝังเอาไว้ใต้ผิวหนัง ตรงส่วนของหูชั้นกลาง หลักการทำงานก็คือมันจะใช้กลไกไปกระตุ้น cochlea กระดูกชิ้นเล็กๆ ที่สั่นเป็นจังหวะแล้วสมองจะแปลการสั่นนี้เป็นเสียง ผู้ใช้จะต้องสวมหน่วยประมวลผลใส่ไว้หลังใบหูเพื่อแปลงเสียงให้เป็นสัญญาณไปยังหูฟังโดยกระบวนการทั้งหมดจะส่งสัญญาณไร้สายผ่านบลูทูธเพื่อช่วยให้คนที่มีปัญหาการได้ยินฟังเสียงได้ชัดขึ้น
หน่วยประมวลผลนั้นสามารถปรับเสียงอัตโนมัติให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อให้ผู้ฟังสามารถได้ยินเสียงชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ตอนนี้อังกฤษถือเป็นประเทศแรกๆ เริ่มนำอุปกรณ์ตัวนี้มาใช้กับคนไข้ตั้งแต่อายุ 5 ปีขึ้นไป

EYECAN+ จ้องจอแทนเลื่อนเมาส์


EYECAN+ จ้องจอแทนเลื่อนเมาส์

รุ่นใหม่นี้มีชื่อว่า EYECAN+ วิธีการทำงานก็คือ ติดตั้งเซนเซอร์เอาไว้ที่ด้านล่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยมันจะทำหน้าที่จับการเคลื่อนไหวของดวงตา ไม่จำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมเลยค่ะ ซึ่งระยะห่างระหว่างดวงตากับจอที่เหมาะสมก็คือ 60 – 70 เซนติเมตร เจ้า EYECAN+ จะทำงานได้ ไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ในท่านั่งหรือท่านอน แค่จ้องที่จอก็สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดาย
การใช้ EYECAN+ เป็นครั้งแรก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการ calibrated ซึ่งมันจะทำการเก็บลักษณะของดวงตาแต่ละคนเอาไว้ จากนั้นก็มาปรับความไวในการสั่งงาน ให้เหมาะกับการใช้งานจริงได้ อินเตอร์เฟสของมันน้ันจะเป็นเมนู pop-up ขึ้นมา เลือกใช้งานได้สองโหมดคือ เป็นหน้าต่างสี่เหลี่ยมหรือเป็น floating menu wheel as EYECAN+ จะมีทั้งหมด 18 คำสั่งด้วยกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกตั้งค่าให้โชว์เฉพาะคำสั่งที่ใช้บ่อยๆ ได้ เช่น ก็อปปี้, แปะ, เลือกทั้งหมด, ลากแล้ววาง, ขยายหรือเลื่อนหน้าจอ การเลือกคำสั่ง เราจะต้องเคลื่อนไหวดวงตาในรูปแบบที่ตั้งไว้ แล้วทำการกะพริบตา หรืออีกวิธีก็คือ จ้องไอคอนบนหน้าจอ จากนั้นให้กะพริบตาหนึ่งที
อุปกรณ์ตัวนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างนักศึกษาปริญญาโทจาก Seoul Yonsei University มาสานต่อโปรเจค EYECAN+ ที่เริ่มจากวิศวกรของซัมซุง ตอนนี้ซัมซุงยังไม่มีแผนที่จะผลิตเพื่อวางจำหน่ายค่ะ แต่จะผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัด แล้วบริจาคให้องค์กรการกุศลแทน

นาฬิกาที่ช่วยชีวิตคนได้



คุณสมบัติพื้นฐานของ Embrace ก็เหมือนนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไป นั่นก็คือ ติดตามการทำกิจกรรม, การออกกำลังกาย, เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รวมถึงดูเวลา แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ สามารถตรวจจับการเป็นลม หรือ หมดสติได้ พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้คนที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อจะได้ทำการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยมันจะทำงานร่วมกับแอปบนสมาร์ทโฟน ถ้าหากใครใส่ Embrace เหมือนกัน และตั้งค่าให้เตือนไว้ เวลาอยู่ใกล้ๆ คนที่เป็นลม ก็จะสั่นเตือนให้รู้ทันที เรียกว่าเหมาะสำหรับใช้ดูแลคนป่วย และผู้สูงอายุที่ต้องการความใส่ใจเป็นพิเศษค่ะ นอกจากนั้นในตัวแอปยังสามารถตรวจจับระดับความเครียดและอีกมากมาย
สายนาฬิกาทำจากหนังแท้จากอิตาลี เรียบหรูดูดีมีสไตล์ การรัดกับข้อมือจะใช้แถบแม่เหล็กค่ะ ทำให้สามารถขยายขนาด รวมถึงถอดเข้า ถอดออกได้อย่างง่ายดาย ในส่วนของตัวเรือนทำจากโลหะขัดเงา ใช้ LED เป็นตัวบอกเวลา สำหรับคนที่ใช้งานเป็นนาฬิกาอย่างเดียว แบตเตอรี่สามารถใช้ได้อย่างน้อยๆ 6 เดือน

EYECAN+ จ้องจอแทนเลื่อนเมาส์



รุ่นใหม่นี้มีชื่อว่า EYECAN+ วิธีการทำงานก็คือ ติดตั้งเซนเซอร์เอาไว้ที่ด้านล่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยมันจะทำหน้าที่จับการเคลื่อนไหวของดวงตา ไม่จำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมเลยค่ะ ซึ่งระยะห่างระหว่างดวงตากับจอที่เหมาะสมก็คือ 60 – 70 เซนติเมตร เจ้า EYECAN+ จะทำงานได้ ไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ในท่านั่งหรือท่านอน แค่จ้องที่จอก็สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดาย
การใช้ EYECAN+ เป็นครั้งแรก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการ calibrated ซึ่งมันจะทำการเก็บลักษณะของดวงตาแต่ละคนเอาไว้ จากนั้นก็มาปรับความไวในการสั่งงาน ให้เหมาะกับการใช้งานจริงได้ อินเตอร์เฟสของมันน้ันจะเป็นเมนู pop-up ขึ้นมา เลือกใช้งานได้สองโหมดคือ เป็นหน้าต่างสี่เหลี่ยมหรือเป็น floating menu wheel as EYECAN+ จะมีทั้งหมด 18 คำสั่งด้วยกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกตั้งค่าให้โชว์เฉพาะคำสั่งที่ใช้บ่อยๆ ได้ เช่น ก็อปปี้, แปะ, เลือกทั้งหมด, ลากแล้ววาง, ขยายหรือเลื่อนหน้าจอ การเลือกคำสั่ง เราจะต้องเคลื่อนไหวดวงตาในรูปแบบที่ตั้งไว้ แล้วทำการกะพริบตา หรืออีกวิธีก็คือ จ้องไอคอนบนหน้าจอ จากนั้นให้กะพริบตาหนึ่งที
อุปกรณ์ตัวนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างนักศึกษาปริญญาโทจาก Seoul Yonsei University มาสานต่อโปรเจค EYECAN+ ที่เริ่มจากวิศวกรของซัมซุง ตอนนี้ซัมซุงยังไม่มีแผนที่จะผลิตเพื่อวางจำหน่ายค่ะ แต่จะผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัด แล้วบริจาคให้องค์กรการกุศลแทน

ซัมซุง เกียร์ เอส อุปกรณ์อัจฉริยะ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน




นี่คือ ซัมซุง เกียร์ เอส (Samsung Gear S) อุปกรณ์อัจฉริยะสวมใส่ได้ เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ด้วยความสามารถในการโทรเข้าออกได้ รองรับ 3G สามารถตอบข้อความที่ส่งเข้ามาได้ทันทีโดยการพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดบนหน้าจอขนาด 2 นิ้ว และแจ้งเตือนต่างๆ จากเครือข่ายสังคมออนไลน์ ปฏิทินและแอพพลิเคชั่นต่างๆ และยังเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวในการดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด คุณสมบัติ S Health สนนราคา ราคา 11,900 บาท

ประวัติส่วนตัวเด็กหญิงชนกานต์ พึ่งพา


เด็กหญิงชนกานต์  พึ่งพา

ชื่อเล่น:อ้อม

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5  เลขที่10

เกิดวันที่ 11 เดือนมีนาคม พ.ศ.2544

โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา

สีที่ชอบ:สีฟ้า สีขาว สีดำ สีม่วง

วิชาที่ชอบ:ภาษาอังกฤษ

อาชีพที่ใฝ่ฝัน:ครูสอนภาษาอังกฤษ